ท่านกรรมการ และสมาชิกชาวสาธารณสุ ขและหมออนามัย
วันพุธที่ 14 มีนาคม 2555 พร้อมกันที่บริเวณอาคารรัฐสภา (ด้านโรงอาหาร) เริ่มเวลาประมาณ 09.00 น. เป็นต้นไป สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข นำโดยนายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข พี่ไพศาล บางชวด ได้ทำเรื่องเสนอขออนุญาตเข้าพบ
1. ประธานวิปรัฐบาล นายอุดมเดช รัตนเสถียร เพื่อเร่งให้นำ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ฉบับรัฐบาล ที่ผ่านการพิจารณากลั่ นกรองและยืนยันเรียบร้อยแล้ วจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และรอให้รัฐมนตรีว่ าการกระทรวงสาธารณสุขตอบยืนยั นตามที่กฤษฎีกาส่งมา แล้วส่งคืนไปที่คณะรัฐมนตรี เพื่อที่วิปรัฐบาลจะนำไปประกบกั บ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข อีก 4 ฉ่บับที่รออยู่ที่สภาผู้ แทนราษฎร และนำไปบรรจุเข้าวาระการพิ จารณาให้ทันในสมัยประชุมสามัญนิ ติบัญญัติ ที่จะปิดสมัยประชุมลงในวันที่ 18 เมษายน 2555 นี้
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา บุรณศิริ เพื่อเร่งให้ตอบยืนยัน ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ฉบับรัฐบาล ที่สำนักงานกฤษฎีกาส่งเรื่ องมายังกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา หากใน 14 วัน กระทรวงสาธารณสุขไม่ตอบยืนยัน หรือมีการแก้ไข ร่าง พรบ.ฯ ที่ผ่านการพิจารณากลั่ นกรองของกฤษฎีกา ก็จะส่งผลกระทบทำให้พิจารณาร่าง พรบ.ที่รออยู่ในสภา 4 ฉบับ พิจารณาไม่ได้ ต้องนำ ร่าง พรบ.ฯ ฉบับรัฐบาลไปประกบ ต้องยึดร่างรัฐบาลเป็นหลักด้วย
ทั้งหมดเป็นขั้ นตอนกระบวนการในการเสนอขอให้มี กฎหมายวิชาชีพสาธารณสุข การเรียกร้องและเร่งติดตามให้รั ฐบาลพิจารณาและให้ความสำคั ญในการมีกฎหมายวิชาชีพสาธารณสุข เป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2550 และระบุไว้ชั ดเจนในมาตราหลายมาตรา โดยเฉพาะมาตราที่เกี่ยวข้ องโดยตรงคือ มาตรา 80 (2) ที่รัฐต้องคุ้มครองประชาชนให้ ได้รับการบริการที่มาตรฐาน อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง ในเวลาเดียวกันรัฐก็ต้องคุ้ มครองผู้ทำหน้าที่ให้บริการด้ านส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสภาพ ที่มีมาตรฐานทางวิชาชีพ และจริยธรรมทางวิชาชีพ ด้วยเช่นกัน
การเรียกร้องและติดตามให้มี การพิจารณาบรรจุเข้าวาระของสมั ยประชุมนิติบัญญัตินี้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ พวกเราชาวสาธารณสุขและหมออนามัย ต้องออกมารวมตัวและใช้สิทธิที่ เป็นไปตามกรอบกติกาของกฎหมาย เพื่อคุ้มครองความเสี่ ยงของประชาชน และคุ้มครองคนทำงานเช่นพวกเราด้ วย
การเรียกร้องและเคลื่อนไหวในวั นที่ 14 มีนาคม 2555 เวลาประมาณ 09.00 น.เป็นต้นไป สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ทำหนังสือขอพบนายกรัฐมนตรี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย เพื่อเร่งติดตามเรื่องกฎหมายนี้ เช่นกัน ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ เป็นการติดตามทวงถามตามสิทธิที่ พึงกระทำได้ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนควรออกมาใช้ สิทธิของตนเองในการเรียกร้องให้ มีกฎหมายวิชาชีพสาธารณสุข มิเช่นนั้นทุกคนก็ จะตกขบวนรถไฟที่สภาวิชาชีพทั้ง 6 สภา เขาไปทำข้อตกลงร่วม (MOU) กับประเทศในภูมิภาคอาเซียนกั นหมดแล้ว
ฝากแง่คิดได้เท่านี้ สำหรับตนเองแล้วไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับการมีกฎหมายวิชาชี พสาธารณสุข แต่ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่ วยให้คนไทยในสังคมจะได้รั บการบริการด้านสาธารณสุ ขจากคนให้บริการที่มี มาตรฐานทางวิชาชีพ และจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
ถ้าสิ่งที่นักสาธารณสุข และหมออนามัย ทั่วประเทศ รอคอยความหวังกับการมีกฎหมายวิ ชาชีพนี้ ก็แสดงตัวตนตัวเองออกมาเคลื่ อนไหว ออกมาเรียกร้องในสิ่งที่ ตนเองรอมาทั้งชีวิตของการเป็ นหมออนามัยที่ทำแทนแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร แล้วพบกันในวันพุธที่ 14 มีนาคม 2555 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณอาคารรัฐสภา (ฝั่งโรงอาหาร)
ด้วยความจริงใจ
ทัศนีย์ บัวคำ
อุปนายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข
โทร. 08-1809-6534
***ขณะนี้มี ความพยายามของคนในกลุ่มสาธารณสุ ขด้วยกันเอง จะบล็อกคนของตนเองไม่ให้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในครั้ งนี้ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขเป็นเพี ยงกลไกที่ผลักดันให้มีกฎหมายนี้ ชนิดที่เรียกว่า "กัดไม่ปล่อย" ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสิทธิของทุ กคน และใช้วิจารณญาณแยกแยะผิดถูกด้ วยตนเอง การขอให้มีกฎหมายไม่ใช่เรื่องง่ าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่ จะทำไม่ได้ การต่อสู้ของพวกเราในช่วงที่ผ่ านมา ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงเวลานี้ และสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข พร้อมด้วยนักเคลื่อนไหวที่เป็ นสมาชิกของสมาคม และพี่น้องชาวสาธารณสุข และหมออนามัย ทำให้ ร่าง พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข พ.ศ.... ฉบับประชาชนเรียกร้องให้มี กฎหมายนี้ ไม่ตกไปในคราวยุบสภาที่ผ่านมา และกฤษฎีกาก็ยืนยันให้มี กฎหมายนี้ แล้วพวกเรารออะไรกันอยู่.....
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น