ข้อเท็จจริงของการผลักดันและขอการสนับสนุน ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข พ.ศ..... (ปี54)
จากการที่สมาชิกบางท่านได้รับข้อมูลว่า ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ตกไปไม่มีใครสนับสนุน สนช.ไม่เห็นด้วย ซึ่งมีบางคนพยายามนำข้อมูลเก่านี้มาเผยแพร่เป็นระยะๆ ทำให้บางท่านสับสนและตกใจกับข้อมูลเก่ามากๆ นี้ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขและทีมทำงานขอชี้แจงว่า ณ ขณะนี้ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข พ.ศ.... (ปี54) ยังไม่ได้มีโอกาสได้เข้าสู่วาระรับหลักการของสภาผู้แทนเลย
นับตั้งแต่ปี 2552 ที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เข้ามามีบทบาทนำในการเสนอ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ใหม่ ในสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยที่ชาวสาธารณสุขจำนวนมากทุกภาคเข้ามาร่วมสนับสนุน กระทั่ง สิงหาคม 2552 เราประชุมใหญ่ที่ มธส. และเคลื่อนขบวนมาที่รัฐสภาเพื่อยื่นร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ให้กับนายกรัฐมนตรี (มีการยื่น 2 ร่าง2เรื่อง คือ พรบ.ส่งเสริมสุขภาพฯ ด้วย)
ปี 2553 เข้ากระทรวงสาธารณสุข พบปลัดกระทรวงสาธารณสุข จนท่านยอมที่จะสนับสนุน ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข จนเป็นร่าง ของรัฐบาล ในนามกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้นเป็นช่วงการเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีสาธารณสุข เมื่อท่าน รมว.จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ มารับตำแหน่ง พร้อมกับการประกาศนโยบาย ข้อสุดท้ายที่ว่าจะส่งเสริมกฏหมายใหม่ๆที่เป็นประโยชน์
เดือนกรกฎาคม 53 ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข เข้าสู่กฤษฎีกา เดือน พฤศจิกายน 53 คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่10 เชิญกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าของร่างฯ และ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันร่าง ฯ โดยการสนับสนุนจากสมาชิก ให้เป็นตัวแทนในการพิจารณาปรับปรุงร่าง พรบ.ฯ ฉบับของรัฐบาล จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2554 นี้
ในขณะที่ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข อีก 3 ฉบับ ที่นายกรัฐมนตรีลงนามอนุมัติเห็นชอบเพราะเป็น พรบ. เกี่ยวข้องกับการเงิน ส่งให้สภาผู้แทน บรรจุในวาระการประชุมของสภารออยู่ แต่ลำดับที่สิบกว่าซึ้งยังเสี่ยงที่จะพิจารณาไม่ทัน
23 มีนาคม 2554 สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และเครือข่ายจากทุกภาค(ยกเว้นภาคเหนือไม่มีใครว่าง) ได้นัดกัน 300 คน เดินทางไปสภา เพื่อติดตาม ทวงถาม และ ขอให้เลื่อนลำดับการพิจารณา ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ให้ทันกับสมัยประชุมนี้ โดยพบ กับ 1.รมต.สาธารณสุข 2.ประธานรัฐสภา 3.ประธานวิปรัฐบาล 4.ประธานวิปฝ่ายค้าน
เราไม่สามารถ ยืนยันได้ว่าผลของการต่อสู้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราก็ทำดีที่สุด ทำอย่างเต็มกำลังสามารถ ทุกสิ่งทุกเหตุการณ์พี่น้องที่ร่วมอุดมการณ์สามารถรับรู้ได้ว่าความเหนื่อยยากเกิดขึ้นทุกขั้นตอนการทำงาน
ภาคใต้ฝ่าความตาย จากปลายด้ามขวาน
จากการที่สมาชิกบางท่านได้รับข้อมูลว่า ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ตกไปไม่มีใครสนับสนุน สนช.ไม่เห็นด้วย ซึ่งมีบางคนพยายามนำข้อมูลเก่านี้มาเผยแพร่เป็นระยะๆ ทำให้บางท่านสับสนและตกใจกับข้อมูลเก่ามากๆ นี้ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขและทีมทำงานขอชี้แจงว่า ณ ขณะนี้ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข พ.ศ.... (ปี54) ยังไม่ได้มีโอกาสได้เข้าสู่วาระรับหลักการของสภาผู้แทนเลย
นับตั้งแต่ปี 2552 ที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เข้ามามีบทบาทนำในการเสนอ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ใหม่ ในสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยที่ชาวสาธารณสุขจำนวนมากทุกภาคเข้ามาร่วมสนับสนุน กระทั่ง สิงหาคม 2552 เราประชุมใหญ่ที่ มธส. และเคลื่อนขบวนมาที่รัฐสภาเพื่อยื่นร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ให้กับนายกรัฐมนตรี (มีการยื่น 2 ร่าง2เรื่อง คือ พรบ.ส่งเสริมสุขภาพฯ ด้วย)
ปี 2553 เข้ากระทรวงสาธารณสุข พบปลัดกระทรวงสาธารณสุข จนท่านยอมที่จะสนับสนุน ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข จนเป็นร่าง ของรัฐบาล ในนามกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้นเป็นช่วงการเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีสาธารณสุข เมื่อท่าน รมว.จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ มารับตำแหน่ง พร้อมกับการประกาศนโยบาย ข้อสุดท้ายที่ว่าจะส่งเสริมกฏหมายใหม่ๆที่เป็นประโยชน์
เดือนกรกฎาคม 53 ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข เข้าสู่กฤษฎีกา เดือน พฤศจิกายน 53 คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่10 เชิญกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าของร่างฯ และ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันร่าง ฯ โดยการสนับสนุนจากสมาชิก ให้เป็นตัวแทนในการพิจารณาปรับปรุงร่าง พรบ.ฯ ฉบับของรัฐบาล จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2554 นี้
ในขณะที่ ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข อีก 3 ฉบับ ที่นายกรัฐมนตรีลงนามอนุมัติเห็นชอบเพราะเป็น พรบ. เกี่ยวข้องกับการเงิน ส่งให้สภาผู้แทน บรรจุในวาระการประชุมของสภารออยู่ แต่ลำดับที่สิบกว่าซึ้งยังเสี่ยงที่จะพิจารณาไม่ทัน
23 มีนาคม 2554 สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และเครือข่ายจากทุกภาค(ยกเว้นภาคเหนือไม่มีใครว่าง) ได้นัดกัน 300 คน เดินทางไปสภา เพื่อติดตาม ทวงถาม และ ขอให้เลื่อนลำดับการพิจารณา ร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ให้ทันกับสมัยประชุมนี้ โดยพบ กับ 1.รมต.สาธารณสุข 2.ประธานรัฐสภา 3.ประธานวิปรัฐบาล 4.ประธานวิปฝ่ายค้าน
เราไม่สามารถ ยืนยันได้ว่าผลของการต่อสู้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราก็ทำดีที่สุด ทำอย่างเต็มกำลังสามารถ ทุกสิ่งทุกเหตุการณ์พี่น้องที่ร่วมอุดมการณ์สามารถรับรู้ได้ว่าความเหนื่อยยากเกิดขึ้นทุกขั้นตอนการทำงาน
ภาคใต้ฝ่าความตาย จากปลายด้ามขวาน
ภาคอิสานฝ่าความกันดารมากับหยาดเหงื่อ
ภาคเหนือข้ามห้วยเขาอุปสรรคขัดขวาง
ภาคกลางอยู่ใกล้ใช้เคลื่อนไหวเร็ว
สี่ภาครวมใจ สาธารณสุขไทยใจหนึ่งเดียว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น