ฉันผิดหรือที่ลาออกจากระบบราชการ

หลังจากที่ฉันได้อ่านบทความของเพื่อนร่วมวิชาชีพสาขาเดียวกันระบายความรู้สึกถึงการได้ทำงานเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินในระบบราชการในช่วงเวลาเดียวกับฉันแล้ว(เราจบรุ่นเดียวกันมา)ฉันก็กลับมาทบทวนชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองอีกครั้ง เพราะประสบการณ์เลวร้ายจากระบบราชการที่ได้รับมากับความรู้สึกภาคภูมิใจในการได้เป็นข้าราชการรับใช้ประชาชนมันเข้ามาตีกันให้ฉันต้องสับสนอีก
ฉันเคยมองโลกในแง่ดี ตั้งใจทำงานตรากตรำในห้องฉุกเฉินของรพ.รัฐ ทำงานนิติเวช ออกชันสูตรทั้งๆที่ไม่มีแพทย์เวรห้องฉุกเฉินอีกคนคอยstandby ตรวจคนไข้ที่ไม่มีปัญญาไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ซ้อมแผนฉุกเฉินจังหวัด จัดทำแผนฉุกเฉินในรพ. ฉันยอมทำงานทุกอย่างที่แพทย์แผนกอื่นไม่ยอมทำ ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องของความเสียสละ ทำแล้วจะกลายเป็นคนดี เป็นที่ยอมรับของทุกแผนก แต่แล้วสิ่งที่ฉันได้รับกลับเป็นสิ่งที่ฉันต้องหันกลับมามองว่านี่เป็นเป้าหมายในชีวิตที่ฉันต้องการจริงหรือ
หลังจากเวลา19เดือนที่ฉันทำงานมา ผู้ป่วยฉุกเฉินยังคงได้รับการดูแลหลังจากเคสVIPและศพ แพทย์เฉพาะทางมีข้ออ้างในการไม่ลงมาดูผู้ป่วยที่อีอาร์ และปิดแผนกก่อนเวลา แพทย์ใช้ทุนยังคงเป็นฟันเฟืองหลักในการดูแลผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน การซ้อมแผนยังคงเป็นการจัดฉากแสดงโดยมีการเขียนบทและคิวเหมือนในภาพยนตร์ โดยที่ประชาชนและระบบไม่ได้ประโยชน์ที่แท้จริง ระบบส่งต่อยังคงสับสนไม่มีประสิทธิภาพ แต่ยกให้เป็นความรับผิดชอบของแผนกฉุกเฉินทั้งๆที่ยังจัดการปัญหาภายในแผนกไม่ได้ บรรดาแพทย์ใช้ทุน นักเรียนแพทย์ ยังรอให้ฉันอยู่สอนและควบคุมการทำงานทั้งๆที่ไม่สามารถอยู่ดูแลในแผนกได้ตลอดเวลา ฉันยังคงถูกผู้ป่วยและญาติต่อว่าในการให้บริการที่ด้อยประสิทธิภาพโดยไม่มีการช่วยเหลือจากเจ้าของกระทรวงและผู้บริหารแต่อย่างใดเลย
มันทำให้ฉันคิดและทบทวนแล้วว่า ฉันไม่อยากเป็นทหารที่ตายในศึกสงครามแล้วผู้คนต่างสรรเสริญในความเป็นผู้เสียสละ แต่สงครามก็ยังเกิดขึ้นทุกแห่งหน ทำไมเราจึงไม่แสวงหาสันติสุข ภราดรภาพ ให้แก่โลกใบนี้แต่กลับแสวงหาทหารผู้กล้าหาญบ้าบิ่นออกไปรบและตายในสมรภูมิ ฉันไม่ต้องการเป็นคนดีในสังคมโดยการต้องเป็นข้าราชการ แต่ไม่สามารถทำหน้าที่อย่างที่ประชาชนคาดหวังได้ มิหนำซ้ำกลับโดนตอกหน้าว่าให้บริการไม่มีประสิทธิภาพ กินเงินภาษีประชาชนโดยเปล่าประโยชน์
วันนี้ฉันลาออกจากระบบข้าราชการแล้ว และยังคงคิดว่าฉันตัดสินใจผิดหรือไม่
ฉันเป็นคนเลวที่ไม่ยอมเสียสละเพื่อประชาชนตามแบบอย่างพ่อหลวงของชนชาวไทยหรือไม่
เพราะฉันเองก็เคยมองแพทย์นอกระบบราชการว่าเห็นแก่ตัว ไม่เสียสละอดทนเพื่อประชาชนคนยากและแพทย์ในระบบคนอื่นๆที่ต้องทำงานหนักมากขึ้นทั้งๆที่บุคลากรในระบบก็เหลือน้อยลงทุกทีแต่ผู้ป่วยกลับเพิ่มทวีขึ้นอย่างมหาศาล แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดว่าบางทีมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร เหตุผลของคนๆหนึ่งอาจไม่ใช่เหตุผลของอีกคนหนึ่ง และการกระทำอย่างหนึ่งย่อมเป็นผล มีผล ส่งผล ต่ออีกสิ่งหนึ่งเสมอ
การลาออกของฉันนั้นเหมือนเป็นวิธีการของคนขี้แพ้ หนีปัญหา แต่ก็คงจะสะท้อนอะไรบางอย่างให้กับระบบบ้างไม่มากก็น้อย แล้ววันนี้ฉันก็ยังคงเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินนอกระบบราชการที่ทำงานดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่และเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมได้
ทุกคนมีวิถีทางชีวิตเป็นของตัวเอง และสามารถเลือกทางเดินชีวิตที่เหมาะสมและมีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับคำว่าอยู่ใน หรือนอกระบบราชการ ขอเพียงแต่ไม่เบียดเบียนเอาเปรียบใคร มุ่งมั่นในเป้าหมายพัฒนาระบบดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินในประเทศไทยให้ไปสู่ทิศทางเดียวกัน แล้วก็คงต้อง"รอดูกันต่อไป" ว่าฝันที่เรามีร่วมกันมันจะเป็นจริงขึ้นมาได้หรือไม่
 
ท่านได้รับข้อความนี้จากกลุ่มสานเสวนา "ผู้สร้างสรรค์ระบบสุขภาพไทยและผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน"

ความคิดเห็น